6 thoughts on “กรณีธรรมกาย : หลวงพ่อธัมมชโย วัดพระธรรมกาย ไม่ปาราชิกแน่แท้

  1. Pingback: กรณีธรรมกาย 2 ทำไม พระธัมมชโย ไม่ปาราชิก | กรณี ธรรมกาย

  2. Pingback: กรณีธรรมกาย : เรื่องที่ดิน หลวงพ่อธัมมชโย ไม่ปาราชิก | กรณี ธรรมกาย

  3. ไขปัญหาธรรม กรณี พระลิขิตปลอม

    เคยอัพไปตั้งแต่ต้นปี 2014 และมีอีกตอนหนึ่งที่เขียนไว้ แล้วดำเนินตามแผนเป๊ะๆ ก็คือ ตอน ล้มประชาชน ล้มรัชทายาท ล้มสังฆราช ล้มศาสนา และวันนี้ จะนำมาเผยแพร่อีกครั้ง เพื่อให้ทุกท่านที่กำลังติดตามข่าวสาร ได้เข้าใจที่มา ความเป็นไปของความวุ่นวายในศาสนา ที่ คสช.มาเพื่อทำตามแผน นี่กูเขียน และอัพไว้เป็นปีๆ แล้วนะ ไม่นึกว่าจะเดินตามนี้ไม่ยอมเปลี่ยน

    – – – – – – – – – –

    >ถาม : พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชที่กล่าวโทษเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่าปาราชิก เป็นของจริงหรือไม่ครับ?

    >ตอบ: เรื่องนี้มีข้อโต้แย้งกันว่าเป็นพระลิขิตจริงหรือไม่ ทำให้เกิดความสับสนในหมู่ชาวพุทธ แต่ทางวัดพระธรรมกายซึ่งน่าจะชี้แจง กลับนิ่งเงียบมาตลอด 10 กว่าปี จากการสืบเสาะหาหลักฐานของทีมงานเพจ ปรากฎดังนี้

    1. มีการปลอมพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชเกิดขึ้นจริง ดังปรากฎหลักฐานตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 23/2547 ซึ่งได้สรุปเรื่องที่เป็นเหตุให้ต้องมีการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ว่าเป็นเพราะมีการปลอมพระลิขิตหลายกรรมหลายวาระ อาทิ

    – ปลอมพระลิขิต ปลดนายบัณฑูร ล่ำซำ ผู้จัดการและประธานมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ จากตำแหน่ง และเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราช จึงมีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้สืบสวนในทางลับ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนในที่สุดวันที่ 30 กรกฎาคม 2545 กองพิสูจน์หลักฐานได้ออกรายงานที่ 1001/2545 ลงความเห็นว่า ลายเซ็นของสมเด็จพระสังฆราช ในเอกสารทั้ง 6 รายการ เป็นลายเซ็นปลอม มีการดำเนินคดีกับ นายเรวัตร อุปพงศ์ นายสิทธิโชค ศรีสุคนธ์ และพระราชรัตนมงคล ผู้รับใช้ใกล้ชิดในวัดบวรนิเวศ ในข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม”

    – ในเดือนธันวาคม 2546 ได้มีพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เสนอแต่งตั้งพระราชรัตนมงคล เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม แต่สุดท้ายพระเทพสารเวที เลขานุการของสมเด็จพระสังฆราช ได้ขอพระลิขิตดังกล่าวกลับคืนไป ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ และเสื่อมเสียพระเกียรติยศของสมเด็จพระสังฆราช และทำให้เกิดความสับสนในหมู่ชาวพุทธเป็นอย่างยิ่ง

    2. พระลิขิตในการกล่าวโทษเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายดังกล่าว มีข้อผิดสังเกตหลายประการ อาทิ

    – ตัวเลขวันที่ ปีพ.ศ.ใช้ตัวเลขอารบิค ซึ่งในการคณะสงฆ์จะทราบดีว่า เป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง เพราะเอกสารสำคัญของการคณะสงฆ์จะใช้เฉพาะเลขไทยเท่านั้น แม้นักเรียนบาลีก็ต้องใช้เลขไทยทั้งหมด

    – วรรคตอนข้อความขาดเป็นช่วงๆ ผิดหลักภาษาไทย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เอกสารสำคัญของสมเด็จพระสังฆราชจะใช้สำนวนการพิมพ์เช่นนี้

    – ลายเซ็นสมเด็จพระสังฆราชตัวหนังสือสะดุดเป็นระยะเป็นรูปเหลี่ยม ต่างจากลายเซ็นตามปกติ

    3. กรรมการมหาเถรสมาคมทุกรูปทราบดีถึงพระพลานามัยของสมเด็จพระสังฆราช หลายกรณีจึงเหมือนน้ำท่วมปาก รู้ความจริงแต่พูดไม่ออก เพราะเกรงกระทบพระเกียรติยศของสมเด็จพระสังฆราช ทำให้ต้องนิ่งเงียบ

    4. การที่อัยการถอนฟ้องเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยขอให้โอนเงินและที่ให้วัดก่อนนั้น เพราะทุกฝ่ายมุ่งหาทางรักษาพระเกียรติยศสมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้ดูว่าได้ทำตามพระลิขิตที่มีเผยแพร่อยู่แล้ว

    5. ที่ว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโอนเงินให้วัดร่วมพันล้านบาทนั้น จริงๆ ศิษยานุศิษย์เป็นผู้โอนเงินของตนให้วัด ทุกคนทำเพื่อรักษาพระเกียรติยศเพื่อให้เรื่องจบ และปัจจัยก็ได้ใช้ในการสร้างวัดต่อไป

    6. มหาเถรสมาคมได้พิจารณากลั่นกรองนำเสนอเลื่อนสมณศักดิ์พเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพญาณมหามุนี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2554 จากคุณูปการที่ท่านได้มีต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ

    7. หากเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายปาราชิกจริง เป็นไปไม่ได้เลยที่มหาเถรสมาคมที่ประกอบด้วยพระมหาเถระจากทั้งมหานิกายและธรรมยุติจะนำเสนอเพื่อขอพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ให้เช่นนั้น

    @@ จึงชัดเจนว่า “คำกล่าวหาว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายปาราชิกนั้น เป็นเรื่องไม่จริง” @@

    Like

  4. ถ้าทุกคนมาศึกษาคำสอนแ่ห่งองค์พระสัมมา มาศึกษาความจริงของชีวิต ให้เข้าใจทฤษฎีปริยัติ,ปฏิบัติได้ตามเเนวทางปฏิเวธ ก็จะไม่มีใครที่จะมาบั่นทอนพุทธเราได้ ยกเว้นถ้าพวกทีไม่อยากจะเข้าใจ จ้องทำลายชาวพุทธ ปู่ ย่า ตายายก็เป็นพุทธ หน้าตาก็คนไทยนี่แห่ล่ะครับ แล้วก็มามีโอกาส ก้าวก่ายก็วุ่นกันอยู่อย่างนี้แหล่ะครับจะอยู่กันอีกสักกี่ปีปลูกฝังศีลธรรมให้ลูกหลานไว้ให้เขาตรึกระลึกถึงคุณความดีที่เรารักษาพุทธไว้ ก็ไม่กี่ปีเราจะกลายเป็นปู่ ย่าไปแล้ว ช่วยกันเสริมงานพระพุทธศาสนาอย่างทีคณะสงฆ์ และวัดพระธรรมกายท่านทำดีกว่า มือไม่พายเอาเท้าลาน้ำ ยุให้สงฆ์แตกแยก อนันตริยกรรมนะ อย่าทนงค์ ตนนะไม่ใหญ่เกินโรงนะท่าน รักกันก็ต้องเตือนกันยกเว้นเตือนไม่ได้ช่างเหอะ คนพุทธเราเองก็ไม่ฟังพระผู้ใหญ่ท่านเลย เป็นเหตุให้ไม่ได้ใช้ของดีในพระพุทธศาสนาอย่ามัวหาเหตุผลให้ตัวเองเสียโอกาสที่จะศึกษาเลยเราเกิดมาในดินแดนพุทธศาสนานะโชคดีแล้ว ก่อนที่คำว่า สยามเมืองยิ้มจะหายไป

    Like

  5. อย่ามัวเสพสุขอย่างเดียวบ้านเมืองมีภัยต้องร่วมหาทางแ้โดยด่วน จัดเจ้าภาพมาสักทีมแล้วจะช่วยแสริมกันไป ป้องกันดีกว่าแก้

    Like

  6. Pingback: วัดพระธรรมกาย การบ้าน 10 ข้อ | กรณี ธรรมกาย

แสดงความคิดเห็นที่นี่