ตีแผ่โดย เจ้าคุณเบอร์ลิน กรณีธรรมกาย โชว์ต้นฉบับ “จดหมายน้อย” : กรณีพระธัมมชโย วัดพระธรรมกาย
ทีมา เพจ เจ้าคุณเบอร์ลิน กรณีธรรมกาย
ที่มาของ “จดหมายน้อย”กรณีธรรมกาย
ผมได้รับการติดต่อจาก “พระผู้ใหญ่ระดับสูงจากไทยรูปหนึ่ง”
ท่านได้เมตตาชี้แจงเรื่องนี้โดยละเอียดแก่ผม
ทั้งยังเป็นพระมหาเถระที่เป็น “ธรรมยุตนิกาย” อีกด้วย
มอบส่วนหนึ่งของ “จดหมายน้อย” กรณีธรรมกาย
ที่เป็นต้นฉบับ ที่ มส. เรียกเป็นทางการว่า “พระดำริ” กรณีธัมมชโย ที่กำลังมั่วถั่วกันอยู่นี้
อีก 1 ชุดแก่ผมอีกด้วย
กรณีธรรมกาย
ซึ่งเป็นเอกสารชุดที่ไม่เคยปรากฏในที่ใดมาก่อน เพราะนี่เป็น “ต้นฉบับ” ที่ใช้ประชุม มส. ในครั้งนั้น.
– ท่านกำชับกับผมว่า ขอให้ใช้สติปัญญา พิจารณานำออกมาเผยแพร่
…….กรณีธรรมกาย
วันนี้ ผมจะเผยแพร่ และเจาะลึกในเอกสาร “ต้นฉบับ”
ที่เรียกว่า “จดหมายน้อย” นี้ จำนวน 5 ฉบับ ไปเลยนะครับ
สื่อท่านใด จะเอาไปขยายก็จะเป็นกุศลด้วยกันครับ.
….กรณีธรรมกาย
ผมจะนำไปชี้ต้นตอของปัญหา สารพัดชื่อที่จะเรียก ทั้ง พระวินิจฉัย พระดำริ พระลิขิต
จนชาวบ้านชาวเมืองมึนไปหมด…
1. ทำไมเรียกว่า “จดหมายน้อย” กรณีธรรมกาย
ตรงนี้ไม่ยากครับ กรรมการ มส. สมัยประชุมที่ตำหนักเพชร วัดบวร รู้แจ้งทุกรูปคำนี้
หรือหากใครทำงานอยู่ “กรมศาสนา” ที่ทำหน้าที่ เลขา มส. ยุคนั่น ก็จะไม่สงสัย
เพราะนี่คือคำที่ใช้เรียกแบบ
“รู้กันในใจกันดีว่า สิ่งนี้ มันมาจากไหน มาจากใคร มายังไง”
คน (ไม่อยากเรียกว่าพระ) ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ก็ตัวแสบคนเดียวนะแหละครับ
ที่มักจะถือมาส่งที่ประชุม มส. หรือยื่นให้ จนท. ในสมัยนั้นเนือง ๆ.
(ผมจะไม่ขยายนะครับ).
……..กรณีธรรมกาย
2. เอกสารที่ออกมาในครั้งนี้นั้น ผมได้สืบค้นในเอกสารของกรมการศาสนายุคนั้น
ปรากฏชัดเจนในสาระบบราชการเรียกว่า “พระอักษร”
ชัดอีกประเด็นหนึ่ง ในกรณีผลของการลำดับ ในการปฏิบัติตามต่อจากนั้น.
………กรณีธรรมกาย
3. ผมจะเล่า และลำดับเหตุการณ์ขณะนั้นให้ฟังครับเผื่อจะได้เห็นภาพอะไรต่ออะไรชัดเจนขึ้น
– ครั้งนั้น ผมไม่ได้เข้าร่วมประชุมหรอกครับ เพราะเด็กอยู่
แต่ทุกครั้งที่หลวงพ่อผมกลับจากประชุม มส.
กรณีธรรมกาย
ท่านกลับมาถึงกุฏิคณะ 5 ท่านก็จะมานั่งดื่มน้ำชาสักพัก พอหายเหนื่อย
ท่านก็จะเล่าว่า วันนี้มีอะไรบ้างที่ประชุม ผมก็จะจำจะจดตลอดครับ
ขนาดคราวหนึ่ง สมเด็จญาณท่านเดินสดุดอาสนะที่นั่ง แล้วพลิกขึ้นเห็นไมค์ลอยตัวเล็ก ๆ สอดไว้ใต้อาสนะ เพื่อดักฟังการประชุม มส. ผมยังรู้เรื่องเลย
คนพาลนี่มันร้ายจริง ๆ ครับ.
………กรณีธรรมกาย
4. ที่อ้างกันว่า เป็นพระลิขิต 5 ฉบับนั้น กรมการศาสนายุคนั้นเขาใช้คำว่า “พระอักษร” ครับ
ในฉบับแรกที่ออกมา ให้สังเกต หัวกระดาษมีตราสัญลักษณ์ ญสส
แต่ท้ายพระอักษรไม่ปรากฏมีลายเซ็นขององค์สมเด็จท่าน
เจ้าคุณเบอร์ลิน กรณีธรรมกาย
เจ้าคุณเบอร์ลิน กรณีธรรมกาย ฉบับที่ 1 |
โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นคำสอนพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธ
มีเจ้าคุณชั้นราช วัดบวร (ยังมีชีวิตอยู่)
ได้เดินถือเข้ามาในที่ประชุมมหาเถรสมาคมที่ตำหนักเพชร
เพื่อให้เจ้าหน้าที่แจกกรรมการ มส.
แต่มีการทักท้วงกันว่า ทำไมพระอักษรไม่มีลายเซ็นพระนามสมเด็จพระสังฆราช
ระวังจะทำให้เกิดความเสียหายแก่พระองค์ท่าน
สุดท้ายจึงมีการขอถอนพระอักษรฉบับนี้กลับไป
แต่ถึงอย่างนั้น พระอักษรฉบับนี้ ก็มีการถูกนำไปขยายผลภายหลังอีก.
…..กรณีธรรมกาย
5. เมื่อมีการถอนพระอักษรฉบับที่ไม่มีลายเซ็นกลับไป ต่อมา จึงมีฉบับใหม่ (ฉบับที่ 2) ที่มีลายเซ็นตามมาอีก
เจ้าคุณเบอร์ลิน กรณีธรรมกาย ฉบับที่ 2 |
แต่มีข้อสังเกตว่า
ในบรรทัดแรกของพระอักษรฉบับที่ 1 กับฉบับที่ 2 มีความต่างกัน ตรงคำว่า “เป็น”
อยู่คนละบรรทัด แสดงให้เห็นว่า น่าจะจัดพิมพ์ขึ้นใหม่ และเกิดจากการอย่างรีบเร่งจนไม่ได้ตรวจทาน (ผิดวิสัยการทำงานที่เป็นปกติทั่วไป) หรือไม่.
……กรณีธรรมกาย
6. หลังจากนั้น ก็มีฉบับที่ 3 ตามมา โดยมีข้อความข้างต้นซ้ำกับฉบับเดิม แต่เพิ่มข้อความใหม่เข้ามาอีก
เจ้าคุณเบอร์ลิน กรณีธรรมกาย ฉบับที่ 3 |
ฉบับนี้ไม่ได้ไปที่ประชุมของมหาเถรสมาคม แต่กลับถูกส่งไปที่กรมการศาสนาคำสอนพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธ
โดยให้เหตุผลว่า มส. เลื่อนการประชุม จึงนำส่งกรมการศาสนาแทน
โดยกรมการศาสนานำไปมอบให้เจ้าคณะภาค 1 เลย ไม่ได้นำเข้าแจ้ง มส.
ฉะนั้น มส. จึงไม่ทราบ/ไม่เห็นฉบับนี้.
….
7. ส่วนฉบับที่ 4 เป็นฉบับที่ปรากฏว่าถูกนำไปแจกเผยแพร่กันทางสื่อมวลชน
เจ้าคุณเบอร์ลิน กรณีธรรมกาย ฉบับที่ 4 แพร่หลายตาม นสพ. |
หลังเริ่มมีการรายงาน และทักท้วงกันมากขึ้น
มีการแฟ็กซ์ไปตามหนังสือพิมพ์ ซึ่งฉบับนี้ ก็ไม่มีลายเซ็นเช่นกัน
จึงไม่มีเจ้าหน้าที่ หรือ มส. รูปใดเห็นฉบับจริง นอกจากการรายงานทางสื่อมวลชนเท่านั้น.
…กรณีธรรมกาย
8. ต่อมา เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงพระอักษรที่ไม่มีลายเซ็นพระนามสมเด็จพระสังฆราช แต่มีการใช้ตราหัวกระดาษ ญสส. ออกมาใช้คำสอนพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธ
เกรงจะมีการแอบอ้างพระอักษรของพระองค์ท่านหรือไม่
จากนั้น จึงมีฉบับที่ 5 ออกมา
เจ้าคุณเบอร์ลิน กรณีธรรมกาย ฉบับที่ 5 |
ครั้งนั้น ในที่ประชุม มส. ทั้งฝ่ายธรรมยุติ และมหานิกาย
จึงได้ทำ “สัญญัติ” ร่วมกันว่า
จะไม่พูดเรื่องนี้ ไม่ถามถึงที่มาที่ไปว่า เป็นพระอักษรจริงหรือไม่ อย่างไร อีก
เพื่อรักษาพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราชร่วมกัน.
…..
9. (แทรกเพื่อความต่อเนื่อง) กรณีธรรมกาย
– ส่วนพระอักษรฉบับที่ส่งมา เพื่อขอให้เจ้าคุณชั้นราช แห่งวัดบวร
เป็นกรรมการมหาเถรสมาคมนั้น
เมื่อเรื่องได้มาถึงที่ประชุม แต่ยังไม่ได้เข้าสู่วาระการประชุม มส.
คำสอนพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธ
ทางฝ่ายธรรมยุติถกกันอย่างกว้างขวาง ว่า จะทำอย่างไรดีกับพระอักษรฉบับนี้
เพราะหากจะไม่ปฏิบัติตาม ก็จะเป็นการไม่บังควร
ครั้นจะปฏิบัติตาม ก็ยิ่งจะทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราช
ซ้ำประวัติศาสตร์คณะสงฆ์ไทยก็จะจารึกไว้ ว่า เป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
– จึงให้มีการตรวจสอบข้อมูลว่า เคยมีเจ้าคุณชั้นราชเป็นกรรมการมหาเถรสมาคมบ้างหรือไม่ ปรากฏว่า ไม่เคยมีเรื่องการขอเจ้าคุณชั้นราช ให้เป็นกรรมการ มส. นี้ เป็นปัญหามาก เพราะจะเป็นการสร้างมลทินให้การปกครองคณะสงฆ์กรณีธรรมกาย
จึงหาข้อยุติไม่ได้สักที
ในที่สุดจึงมีการตกลงกันว่า
“ขอถอนพระอักษรฉบับนี้คืน”
พร้อมกับให้เรียกเก็บเอกสารทั้งหมดจากกรรมการ มส. ทุกรูป.
คำสอนพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธ
– จากพระอักษรฉบับนี้
เป็นไปไม่ได้ที่สมเด็จพระสังฆราช จะไม่ทรงทราบว่า พระราชาคณะชั้นราชเป็นกรรมการ มส ไม่ได้ โดยต้องเป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ขึ้นไป
ซึ่งเป็นการขัดธรรมเนียมปฏิบัติของคณะสงฆ์.
สรูปว่า
– ทั้งหลายทั้งปวงที่ผมได้พยายามแจงมาข้างต้นทั้ง 9 ข้อนั้น
ก็แสดงว่า งานนี้น่าจะมีความไม่ปกติเกิดขึ้น
น่าจะมีคณะบุคคลดำเนินการโดยพลการหรือไม่
โดยไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติของคณะสงฆ์ ที่ยึดทั้งพระธรรมวินัย และกฏหมายสงฆ์
กรณีธรรมกาย
Pingback: กรณีธรรมกาย 2 ทำไม พระธัมมชโย ไม่ปาราชิก | กรณี ธรรมกาย
Pingback: กรณีธรรมกาย : เรื่องที่ดิน หลวงพ่อธัมมชโย ไม่ปาราชิก | กรณี ธรรมกาย
ไขปัญหาธรรม กรณี พระลิขิตปลอม
เคยอัพไปตั้งแต่ต้นปี 2014 และมีอีกตอนหนึ่งที่เขียนไว้ แล้วดำเนินตามแผนเป๊ะๆ ก็คือ ตอน ล้มประชาชน ล้มรัชทายาท ล้มสังฆราช ล้มศาสนา และวันนี้ จะนำมาเผยแพร่อีกครั้ง เพื่อให้ทุกท่านที่กำลังติดตามข่าวสาร ได้เข้าใจที่มา ความเป็นไปของความวุ่นวายในศาสนา ที่ คสช.มาเพื่อทำตามแผน นี่กูเขียน และอัพไว้เป็นปีๆ แล้วนะ ไม่นึกว่าจะเดินตามนี้ไม่ยอมเปลี่ยน
– – – – – – – – – –
>ถาม : พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชที่กล่าวโทษเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่าปาราชิก เป็นของจริงหรือไม่ครับ?
>ตอบ: เรื่องนี้มีข้อโต้แย้งกันว่าเป็นพระลิขิตจริงหรือไม่ ทำให้เกิดความสับสนในหมู่ชาวพุทธ แต่ทางวัดพระธรรมกายซึ่งน่าจะชี้แจง กลับนิ่งเงียบมาตลอด 10 กว่าปี จากการสืบเสาะหาหลักฐานของทีมงานเพจ ปรากฎดังนี้
1. มีการปลอมพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราชเกิดขึ้นจริง ดังปรากฎหลักฐานตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 23/2547 ซึ่งได้สรุปเรื่องที่เป็นเหตุให้ต้องมีการแต่งตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ว่าเป็นเพราะมีการปลอมพระลิขิตหลายกรรมหลายวาระ อาทิ
– ปลอมพระลิขิต ปลดนายบัณฑูร ล่ำซำ ผู้จัดการและประธานมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ จากตำแหน่ง และเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราช จึงมีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้สืบสวนในทางลับ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนในที่สุดวันที่ 30 กรกฎาคม 2545 กองพิสูจน์หลักฐานได้ออกรายงานที่ 1001/2545 ลงความเห็นว่า ลายเซ็นของสมเด็จพระสังฆราช ในเอกสารทั้ง 6 รายการ เป็นลายเซ็นปลอม มีการดำเนินคดีกับ นายเรวัตร อุปพงศ์ นายสิทธิโชค ศรีสุคนธ์ และพระราชรัตนมงคล ผู้รับใช้ใกล้ชิดในวัดบวรนิเวศ ในข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม”
– ในเดือนธันวาคม 2546 ได้มีพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เสนอแต่งตั้งพระราชรัตนมงคล เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม แต่สุดท้ายพระเทพสารเวที เลขานุการของสมเด็จพระสังฆราช ได้ขอพระลิขิตดังกล่าวกลับคืนไป ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ และเสื่อมเสียพระเกียรติยศของสมเด็จพระสังฆราช และทำให้เกิดความสับสนในหมู่ชาวพุทธเป็นอย่างยิ่ง
2. พระลิขิตในการกล่าวโทษเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายดังกล่าว มีข้อผิดสังเกตหลายประการ อาทิ
– ตัวเลขวันที่ ปีพ.ศ.ใช้ตัวเลขอารบิค ซึ่งในการคณะสงฆ์จะทราบดีว่า เป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง เพราะเอกสารสำคัญของการคณะสงฆ์จะใช้เฉพาะเลขไทยเท่านั้น แม้นักเรียนบาลีก็ต้องใช้เลขไทยทั้งหมด
– วรรคตอนข้อความขาดเป็นช่วงๆ ผิดหลักภาษาไทย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เอกสารสำคัญของสมเด็จพระสังฆราชจะใช้สำนวนการพิมพ์เช่นนี้
– ลายเซ็นสมเด็จพระสังฆราชตัวหนังสือสะดุดเป็นระยะเป็นรูปเหลี่ยม ต่างจากลายเซ็นตามปกติ
3. กรรมการมหาเถรสมาคมทุกรูปทราบดีถึงพระพลานามัยของสมเด็จพระสังฆราช หลายกรณีจึงเหมือนน้ำท่วมปาก รู้ความจริงแต่พูดไม่ออก เพราะเกรงกระทบพระเกียรติยศของสมเด็จพระสังฆราช ทำให้ต้องนิ่งเงียบ
4. การที่อัยการถอนฟ้องเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยขอให้โอนเงินและที่ให้วัดก่อนนั้น เพราะทุกฝ่ายมุ่งหาทางรักษาพระเกียรติยศสมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้ดูว่าได้ทำตามพระลิขิตที่มีเผยแพร่อยู่แล้ว
5. ที่ว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโอนเงินให้วัดร่วมพันล้านบาทนั้น จริงๆ ศิษยานุศิษย์เป็นผู้โอนเงินของตนให้วัด ทุกคนทำเพื่อรักษาพระเกียรติยศเพื่อให้เรื่องจบ และปัจจัยก็ได้ใช้ในการสร้างวัดต่อไป
6. มหาเถรสมาคมได้พิจารณากลั่นกรองนำเสนอเลื่อนสมณศักดิ์พเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดเกล้าพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพญาณมหามุนี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2554 จากคุณูปการที่ท่านได้มีต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ
7. หากเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายปาราชิกจริง เป็นไปไม่ได้เลยที่มหาเถรสมาคมที่ประกอบด้วยพระมหาเถระจากทั้งมหานิกายและธรรมยุติจะนำเสนอเพื่อขอพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ให้เช่นนั้น
@@ จึงชัดเจนว่า “คำกล่าวหาว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายปาราชิกนั้น เป็นเรื่องไม่จริง” @@
LikeLike
ถ้าทุกคนมาศึกษาคำสอนแ่ห่งองค์พระสัมมา มาศึกษาความจริงของชีวิต ให้เข้าใจทฤษฎีปริยัติ,ปฏิบัติได้ตามเเนวทางปฏิเวธ ก็จะไม่มีใครที่จะมาบั่นทอนพุทธเราได้ ยกเว้นถ้าพวกทีไม่อยากจะเข้าใจ จ้องทำลายชาวพุทธ ปู่ ย่า ตายายก็เป็นพุทธ หน้าตาก็คนไทยนี่แห่ล่ะครับ แล้วก็มามีโอกาส ก้าวก่ายก็วุ่นกันอยู่อย่างนี้แหล่ะครับจะอยู่กันอีกสักกี่ปีปลูกฝังศีลธรรมให้ลูกหลานไว้ให้เขาตรึกระลึกถึงคุณความดีที่เรารักษาพุทธไว้ ก็ไม่กี่ปีเราจะกลายเป็นปู่ ย่าไปแล้ว ช่วยกันเสริมงานพระพุทธศาสนาอย่างทีคณะสงฆ์ และวัดพระธรรมกายท่านทำดีกว่า มือไม่พายเอาเท้าลาน้ำ ยุให้สงฆ์แตกแยก อนันตริยกรรมนะ อย่าทนงค์ ตนนะไม่ใหญ่เกินโรงนะท่าน รักกันก็ต้องเตือนกันยกเว้นเตือนไม่ได้ช่างเหอะ คนพุทธเราเองก็ไม่ฟังพระผู้ใหญ่ท่านเลย เป็นเหตุให้ไม่ได้ใช้ของดีในพระพุทธศาสนาอย่ามัวหาเหตุผลให้ตัวเองเสียโอกาสที่จะศึกษาเลยเราเกิดมาในดินแดนพุทธศาสนานะโชคดีแล้ว ก่อนที่คำว่า สยามเมืองยิ้มจะหายไป
LikeLike
อย่ามัวเสพสุขอย่างเดียวบ้านเมืองมีภัยต้องร่วมหาทางแ้โดยด่วน จัดเจ้าภาพมาสักทีมแล้วจะช่วยแสริมกันไป ป้องกันดีกว่าแก้
LikeLike
Pingback: วัดพระธรรมกาย การบ้าน 10 ข้อ | กรณี ธรรมกาย